Dead Front ไปลองกันหรือยัง

Dead Front Dungeon จะแบ่งออกเป็น 6 ระดับด้วยกัน คือ

1. เลเวล 21-45
2. เลเวล 46-70
3. เลเวล 71-90
4. เลเวล 91-110
5. เลเวล 111 ขึ้นไป
6. เลเวล 131 ขึ้นไป

ถ้าหากตัวละครเรามีเลเวลถึงระดับใดก็ตาม แนะนำว่าให้พยายามมาลงเดดฟร้อนให้ได้ เพราะเลเวลจะอัพเร็วมาก ได้ exp มากกว่าข้างนอกประมาณ 3-4 เท่า ถ้าล้มบอสได้ก็ได้ exp เป็นแสน ถ้าได้ลงไปสักรอบ รับรองเลยว่าจะติดใจ

สำหรับเวลาลง Dead Front จะแบ่งออกเป็น 3 รอบต่อวัน คือ รอบ 5 โมง, รอบ 1 ทุ่ม, รอบ 3ทุ่ม ควรไปก่อนเวลาสักประมาณครึ่ง ชั่วโมง นัดแนะเพื่อนในปาร์ตี้ให้ดี (1 ปาร์ตี้ ต้องมีอย่างน้อย 4 คน ถึงจะสมัครเข้าร่วม Dead Front ได้) สำหรับใครไม่มีปาร์ตี้ก็ไปหาเอาหน้าดันได้ แต่ก็เสี่ยงที่จะไม่ได้ปาร์ตี้เหมือนกัน นัดแนะกันก่อนไปจะดีกว่า

สิ่งของที่ต้องเตรียมไปคือ ตั๋วเข้าดันตามระดับเลเวลที่เราจะเข้า (ใครไม่มีตั๋วติดตัวไป หัวหน้าปาร์ตี้จะสมัครเข้าดันไม่ได้)

ใครที่มีชิ้นส่วนตั๋วที่เป็นรูปเหมือนถุง สีเขียว (สำหรับเลเวล 21-45) สีส้ม (สำหรับเลเวล 46-70) ระดับอื่นไม่รู้ว่าสีอะไร -*-เวลยังไม่ถึง สามารถไปแลกได้ที NPC ชื่อ Tes เมือง Braiken โดยใช้ 20 ถุงแลกเป็น 1 ตั๋ว (ตั๋วหรือถุงนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ใครจะลงต้องหามาด้วยตัวเองเท่านั้น)

เมื่อได้ตั๋วแล้วให้วิ่งไปที่แมพ Chain of Fire ใครไปไม่ถูกให้วาร์ปไปที่เมือง Braiken แล้วเดินออกไปแมพNorth Ares จากนั้นเปิดแมพดู จะเห็นทางเข้า Chain of Fire ตรงมุมขวาล่างของแผนที่ (สำหรับใครที่ขี่สัตว์อยู่ให้ลงจากสัตว์ก่อน ถึงจะเข้าประตู Chain of Fire ได้)

เมื่อเข้ามาแล้วเปิดแมพดู จะเห็นจุด NPC สีขาวๆ เราอยู่ระดับเลเวลไหนก็ให้วิ่งไปจุดนั้น จากนั้นก็รอเวลาสมัคร

Dead Front จะกำหนดเวลารอสมัครประมาณ 22 นาที (เริ่มจาก 16.30, 18.30, 20.30) ช่วงนี้เป็นช่วงการเตรียมปาร์ตี้ เตรียมตั๋ว แล้ววิ่งมาที่แมพ

เมื่อหมดเวลารอสมัคร Dead Front จะเปิดให้สมัครเข้าร่วมเป็นเวลา 5 นาที ช่วงนี้ให้หัวหน้าปาร์ตี้เดินเข้าไปคุยกับ NPC เพื่อสมัครเข้าร่วม Dead Front (ถ้าสมาชิกในปาร์ตี้ไม่ครบ 4 คน หรือใครคนใดคนหนึ่งในปาร์ตี้ไม่มีตั๋วอยู่ในตัว หัวหน้าปาร์ตี้จะไม่สามารถสมัครเข้าร่วมได้)

หลังจากหมดเวลารับสมัคร ก็ต้องมาลุ้นกันว่าปาร์ตี้ของเราจะได้รับเลือกให้เข้าไปใน Dead Front หรือไม่ ในกรณีที่มีผู้สมัครมากกว่า 4 ปาร์ตี้ เพราะจะมีแค่ 4 ปาร์ตี้เท่านั้นที่ได้รับเลือก

ถ้าหากปาร์ตี้เราได้รับเลือก จะมีข้อความขึ้นที่หน้าจอว่า IN ตัวใหญ่ๆ ถ้าเราไม่ได้รับเลือกก็จะเป็น OUT

สมมติว่าปาร์ตี้เราได้รับเลือก ให้สมาชิกทุกคนในปาร์ตี้ เดินเข้าไปคุยกับ NPC แล้วเลือกตอบข้อ 2 เข้าไปใน Dead Front ขั้นตอนนี้จะมีเวลาประมาณ 3 นาที

เมื่อตัวละครถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยนแล้ว จะมีเวลาอีกประมาณ 3 นาทีในการเตรียมตัว ใครจะบัฟ จะกินยา ก็กดได้เลย

พอหน้าจอ นับถอยหลัง 5-4-3-2-1 ก็ลุยกันเลย

แผนที่ทางเดินใน Dead Front (Dead Front Map )

Read more...

Quest นี้แจกหินบวก พลาดได้ไง

เควสแจกหินบวกหรือเควสบอส 50 นี้ เป็นเควสต่อเนื่อง รับได้ตั้งแต่เลเวล 38 แต่ส่วนมากจะทำกันตอนเลเวล 50 เพราะทำต่อเนื่องได้ทีเดียวเลย ส่งเควสแล้วรับต่อ เควสที่ต้องทำจะมีทั้งหมด 6 เควส ชื่อเควส Chamber of Goddess (1-6) เริ่มจากเลเวล 38, 42, 47, 50 (3 เควส)

ของรางวัล: เพชรแดง 4 ก้อน (จากเควสเลเวล 38-50-1), เพชรขาว (เควส 50-2), เพชรทอง (เควส 50-3)

สถานที่รับเควส: Kata เมือง Parca Temple (NPC ตัวที่หันหน้าไปทางออกเมือง Heiharp)

จากแผนที่ด้านบน เมื่อเรารับเควสมาแล้ว ให้วิ่งเข้าไปในวิหาร
เควสเลเวล 38 เข้าไปห้องที่ 1
เควสเลเวล 42 เข้าไปห้องที่ 2
เควสเลเวล 47 เข้าไปห้องที่ 3
เควลเลเวล 50-1 เข้าไปห้องที่ 4
เควสเลเวล 50-2 เข้าไปห้องที่ 5
เควสเลเวล 50-3 เข้าไปห้องที่ 6

บอสจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับห้อง บางห้องก็มีลูกน้องเกะกะด้วย เพราะฉะนั้นควรหาปาร์ตี้ไปให้เต็มตี้ จะได้ฆ่าง่ายๆหน่อย ใครที่ไปคนเดียวก็ลองขอเข้าปาร์ตี้กับผู้เล่นคนอื่นได้ เพราะรับเควสเหมือนกัน จบเควสก็ได้ของทุกคน

ใครที่เลเวล 50 แล้วยังไม่เคยทำ ให้กลับไปรับซะ ง่ายๆแบบนี้ ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องเสี่ยง พลาดได้ไง

Read more...

แนวการอัพสกิลของ Incar Magician

Incar Magician มีสกิลให้เลือกเล่นอยู่ทั้งหมด 3 สาย ช่วงแรกๆ เราคงไม่สามารถเล่นได้ทั้ง 3 สาย ต้องเลือกเอาเล่นแค่สายเดียวเต็มๆ หรือผสมระหว่าง สายไฟ+สายฟ้า หรือ สายไฟ+สายน้ำแข็ง สำหรับคนเล่นเวทย์แค่สายเดียว จะไม่มีปัญหาเรื่องสกิลพอยท์ คนที่เล่นเวทย์ 2 สายจะประสบปัญหาสกิลพอยท์ไม่พออยู่บ้าง เพราะฉะนั้นจะเลือกอัพสกิลไหนมาใช้ก่อน ก็เป็นปัญหาสำหรับ Magician มือใหม่อยู่เหมือนกัน บางสกิลแรงแต่ยิงเดี่ยว ก็ไม่เหมาะสำหรับคนเก็บเลเวลแบบลาก เพราะฉะนั้นต้องวางแผนการอัพสกิลให้ดี จะได้เก็บเลเวลอย่างลื่นไหล

ข้อดีการอัฟสกิลตามนี้

1. เก็บเลเวลไวมาก เพราะเน้นลากทีละ 3 ตัว (ลาก limit 3 ตัว) แล้วไปใช้สกิลใกล้ๆ กับตัวที่ 4 ดังนั้นจึงได้สังหารไป 4 ตัว Exp กระจายครับ
2. ประหยัดยา HP-MP เพราะสายนี้มีการอัฟสกิล+Def ไปหลายสกิล ถึกแน่นอน ส่วน MP ก็มีสกิล regen ไวสุดๆ ไม่ต้องพกยา MP ก็เวลได้
3. เมื่อประหยัดทั้ง 2 แล้ว ก็ต้องรวยสิครับ โกยเยอะๆไปเลย
4. เน้นสกิลหมู่ ไม่หวั่นแล้วมอน..มามาก ยิ่งมากยิ่งมันส์

ข้อเสีย คือ

1. สกิลอาจจะร่ายช้าไปนิด แต่ลากดีๆ ก็แจ่มเลยครับ

เอาละมาเริ่มดูตารางสกิลที่ผมได้ทำ พร้อมกันอธิบาย เหตุผลที่ผมถึงอัฟสกิลพวกนี้กันเลย

Energy Jab มีติดตัวตั้งแต่เลเวล 1 ใช้สกิลนี้ไปจนเลเวล 7

Fire Mastery จะได้ตอนเลเวล 5 คุณสมบัติ+ความแรงของธาตุไฟ เริ่มต้น 3% ถึง 30% และ ป้องกันธาตุไฟ

Lightning Mastery จะได้ตอนเลเวล 5 คุณสมบัติ+ความแรงของธาตุสายฟ้า เริ่มต้น 3% ถึง 30% และ ป้องกันธาตุสายฟ้า

Fire Bolt จะได้ตอนเลเวล 7 เป็นสกิลโจมตีเดี่ยว ยิงทีละตัว

Lightning Bolt จะได้ตอนเลเวล 7 สกิลโจมตีหมู่ ยิงเป็นเส้นตรงเหมือนปล่อยลูกบอลสายฟ้า จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อลากมอนเตอร์มาติดๆ ประชิดกัน

ช่วงนี้ก็ใช้แค่ 2 สกิลนี้หากินก่อนครับ จะยิงทีละตัวหรือลากก็ได้เลย ส่วนสกิลน้ำแข็ง ไม่ต้องอัฟนะครับ เพราะสร้างความแรงเหมือนๆธาตุไฟ และโจมตีเดี่ยวด้วย

Fire Ball สกิลนี้จะได้ตอนเลเวล 16 เป็นสกิลโจมตีหมู่ ต้องลากดีๆ จะโดนเป็นกลุ่มครับ ยากหน่อยนะ อิอิ

Chain Lightning สกิลนี้จะได้ตอนเลเวล 16 เป็นสกิลโจมตีหมู่ สกิลนี้แระครับ ที่แจ่มมาก ลากมอนเตอร์มา 3 โดยความห่างมอนเตอร์ไม่เกิน 1 ช่วงตัวของมอนเตอร์ จะโจมตีหมู่โดน 3 ตัวเลย Tips : ตอนลากมา 3 ตัว แล้วตอนใช้สกิลก็ไปใช้สกิลใกล้ๆ กับมอนเตอร์อีกตัว คือตัวที่ 4 มันจะยืนอยู่เฉยๆ สกิลเราก็จะโจมตีไป 4 ตัว เลยทำให้ได้ Exp เยอะ โดยรวมสกิลนี้ถือว่าดีมากๆ ใช้จนเวล 18 แล้วไป Map หิมะ ลากสบายเลยครับ

Fire Blaze สกิลนี้จะได้ตอนเลเวล 27 เป็นสกิลโจมตีหมู่ และเกือบๆประชิดตัว สกิลนี้สุดยอดในความแรงเลยครับDmg ขึ้น 3 hit พอกดใช้ปุ๊บสกิลร่ายประมาณ ~0.5 วิ แล้วใช้ได้เลย สกิลนี้เอาไว้เปิด แล้วก็ปิด

Lightning Chase สกิลนี้ได้ตอนเลเวล 27 เป็นสกิลโจมตีหมู่ ฟ้าผ่าลงหัวป๊าบเลย ใช้ Combo กับสกิล Fire Blaze สังหารมอนเตอร์อย่างไว

เอาละ มาถึงสกิลติดตัว และสกิลบัฟกัน

Energy Mastery สกิลนี้ได้ตอนเลเวล 5 เป็นสกิลติดตัว +Def คิดเป็น % ของ Def ทั้งตัวเรา ยิ่งเลเวลสูง +Def ไป 30% เยอะมากๆ

Seize Nimbis สกิลนี้ได้ตอนเลเวล 14 เป็นสกิลบัฟให้ตัวเอง +Def เพียวๆ และ +แบบเป็น% อีกทั้งกันทุกๆธาตุให้อีกด้วย ยิ่งเลเวลสูงยิ่งอยู่นาน ในเลเวล 5 (สูงสุด) +DEF 36 / +DEF 2% / ป้องกันทุกธาตุ 12% อยู่ได้ 200 วิ และคูดาว 240 วิ แจ่มไหมละ

Mana Force สกิลนี้ได้มาตอนเวล 10 เป็นสกิลแลก HP เป็น MP ช่วยฟื้นฟู MP ทุกๆ 1 วิ โดยเลเวล 5 (สูงสุด) จะฟื้นฟู MP 42.62 ต่อ วินาที สกิลอยู่ได้ 120 วิ และคูดาว 150 วิ แนะนำอัฟเลยครับ สกิลนี้ดีจริง ไม่พกยา MP ก็อยู่ได้

ถ้าดูจากผังสกิลผมแล้ว จะเล่นแค่ 2 สายก่อนนะครับ ก็คือสายไฟ และสายฟ้า เพราะจะใช้ประโยชน์จากสกิลได้คุ้มค่า ส่วนน้ำแข็งค่อยอัฟตอนหลังๆนะครับ จะได้ใช้ประโยชน์สูงสุด

เอาละ ต่อจากเลเวล 27 ไป ถึง 36 กันเลยครับ

เลเวล 36

สกิลที่อัฟเพิ่ม เราจะใช้สกิล Fire Fury เลเวล 36 / และ Lightning Circle เลเวล 36

Fire Mastery อัฟเพิ่มเพื่อความแรงของสกิลธาตุไฟครับ

Lightning Mastery อัฟเพิ่มเพื่อความแรงของสกิลธาตุสายฟ้า

Fire Fury สกิลได้มาตอนเลเวล 36 เป็นสกิลหมู่โจมตี 3 hit ร่ายช้าสักนิดครับ ตอนลากมอนเตอร์มา อาจโดนโจมตีสัก 1 ที ก่อนสกิลจะทำ Dmg แต่ถ้าลากดีๆ ก็ไม่โดนโจมตีครับ

Lightning Circle สกิลนี้คุณสมบัติเหมือนสกิลข้างบนนี้เลยครับ

ตอนเก็บเลเวล ถ้าเลเวลยังไม่เกิน 40 ผมแนะนำว่าใช้สกิล เลเวล 27 ก่อนนะครับ พอย้ายไป Map หิมะ ที่มอนเตอร์เวล 40+ ก็เริ่มมาใช้สกิลเลเวล 36 ทำการทำ Combo สกิล ก็คือเปิดด้วย Fire Fury + Lightning Circle + Lightning Chase + Chain Lightning ถ้ามอนเตอร์ยังไม่ตายและเดินมาใกล้ตัวก็กดสกิล Fire Blaze อีกรอบครับ ( สกิลทำให้มอนเตอร์กระเด็นถอยหลังทำให้ เราไม่โดนโจมตีครับผม )

เอาละมาถึงสกิล บัฟกัน ก็อัฟตามเดิมดังในรูปเลยครับ แต่จะมีสกิลใหม่ขึ้นมาคือ

Magic Power สกิลนี้ได้มาตอนเวล 30 เป็นสกิลบัฟเพิ่ม Magic เพียวๆ และ+ให้แบบเป็น% อีกด้วย ที่เลเวล 5 (สูงสุด) Magic +130 / Magic +5% อยู่ได้ 180 วิ และคูดาว 190 วิ ไม่อัฟไม่ได้แล้วครับ ของเค้าดีจริง

เลเวล 52

สกิลเลเวล 51 ยังไม่ต้องอัฟนะครับ เพราะสกิลนี้โจมตีเดี่ยว คือไม่เหมาะกับการเก็บเลเวล และลากเยอะๆ ครับ ดังนั้นเราจึงมาเพิ่ม Fire-Lightning Mastery สูงสุดจนเลเวล 10 ทำให้สกิลไฟและสายฟ้า แรงขึ้นอีก 30% นั่นเอง ส่วนบัฟต่างๆ ก็อัฟไปตามรูปเลยครับผม

เลเวล 81

อัฟไปจนสุดๆเลยครับ แต่ที่ได้เลเวล 9 เพราะ point หมดแล้วครับ เราใช้สกิลนี้หากินเลย ในเลเวล 9 ความแรงก็ 1166*3 = 3498 Dmg ซึ่งคูดาว 5.6 วิ โดยแรงกว่าสกิลเลเวล 51 คือ Flame Burning ที่โจมตีเดี่ยว ความแรง 358+326*5 = 1988 Dmg และดูดาว 8 วิ นานจังวู้ๆ

เหมือนข้างบนนี้เลยครับ ความแรงสกิลในเลเวล 9 ก็ 943*3 = 2829 dmg

Flame Burning สกิลนี้จะได้มาตอนเลเวล 51 เป็นสกิลโจมตีเดี่ยว โจมตีรวม 6 hit ปล่อยสกิล เหมือนสกิลโปรตอน สแปรช ของ Wiz เกมส์ GE อะ อิอิ หรือคล้ายๆสกิล G.master Dual Cannon (ชื่อผิดขออภัยด้วย) ของ Wiz คาบาล แต่มันขึ้น 6 hit แต่เราอัฟแค่เป็นทางผ่าน ไปสกิลเวล 81 ที่โจมตีหมู่ จะดีกว่า

Ice Blanket สกิลนี้มีคุณสมบัติเหมือนสกิลข้างบนเลยครับ อัฟเป็นทางผ่านก่อน

Cruelty Lightning สกิลนี้มีคุณสมบัติเหมือนสกิลข้างบนเช่นกันครับ อัฟเป็นทางผ่านก่อน

Blast Phoenix สกิลนี้จะได้มาตอนเวล 81 เป็นสกิลโจมตีหมู่ครับ ตอนใช้จะมีนก Phoenix บินมา 1 ตัว แล้วพู่งไปหามอนเตอร์เยย เอิ๊กส์ๆ Dmg ขึ้น 1 hit เนื้อเน้นๆ ไม่เอาผัก แรงเอาการเลยแระ

Freeze Spirit สกิลนี้ได้มาตอนเลเวล 81 ช่วยแข็งแข็งมอนเตอร์เป็นวงกว้าง นาน 1.9 วิ มีประโยชน์ต่อปารตี้มากๆ แต่สกิลจะเบามากครับ ความแรงแค่ 1505 Dmg เลยเราอัฟเป็นทางผ่านแค่เลเวล 1 ก่อนละกัน แล้วค่อยไปใช้สกิลเลเวล 92 แบบแรงๆ ไปเลย

Thunder Spear สกิลนี้ก็ได้มาตอนเวล 81 เช่นกัน เป็นสกิลโจมตีหมู่ โจมตีไป 2 hit สกิลจะมีลูกบอลไฟฟ้า ลอยมา 2 ลูกแล้วก็ชาจพลัง พร้อมปล่อยพลังคลื่นเต่าสท้านเฟ้า

เลเวล 91

อัฟตามรูปเลยนะครับ สกิลที่เด่นๆ ตอนนี้ในการทำ Combo ก็มีสกิลเลเวล 36 ไฟ+สายฟ้า โดยอัฟไปสูงสุดในเลเวล 10 มีความแรงแน่นอนครับผม ไฟแรง 3915 Dmg กับ สายฟ้าแรง 3162 Dmg สกิล คูดาวอย่างละ 5.8 วิ สกิลทั้ง 2 นี้นำมา Combo กับสกิล Blast Phoenix ความแรง 6061 Dmg คูดาว 12 วิ กับ Thunder Spear ความแรง 5408 Dmg ดูดาว 12 วิ เช่นกัน

ถาม : ทำไมไม่อัฟสกิลน้ำแข็งให้มากๆ หรือ เล่นไป 3 สายเลยละ
ตอบ : เนื่องจากสกิลสายน้ำแข็งตอนแรกๆ สกิลให้ผลประโยชน์ได้ไม่ค่อยมากครับ สกิลเบาและร่ายช้าไป เราจึงเน้นไปไฟกับสายฟ้า ซึ่งได้ผลประโยชน์สูงสุด ณ ตอนนี้ การันตีความแรงของสกิลแน่นอน

เกือบลืมสกิลนี้

Spoiled Divinity เป็นสกิลเลเวล 58 โจมตีหมู่ 2 hit สกิลนี้ตอนแรกๆ อย่าพึ่งอัฟครับ ผมคิดว่ามาอัฟตอนหลังจะดีกว่า เพราะมอนเตอร์หลังๆ มันมี Resistance เริ่มสูงขึ้น แล้วก็เป็นผลดีตอนใช้ pvp ที่เลเวล 5 ลดการป้องกันธาตุไฟ 20% / น้ำแข็ง 15% / สายฟ้า 9% และ คงอยู่ 5 วินาที

ส่วนสกิล สีน้ำเงินๆ ที่อัฟไปเลเวล 2 นี้ ส่วนใหญ่เขาจะใช้ใน PVP มากกว่าครับ เพราะมันคูดาวตั้ง 45 วิ จึงไม่ขออธิบายสกิลนี้ละกัน แต่ผมก็ งง ๆสกิลนี้เหมือนกันนะ ใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ

สกิลเราจะค่อยไปรีสกิล ตอนเลเวล 92 นะครับ จะดีกว่าเดิมมากมาย เราก็จะได้เล่นทั้ง 3 สายแล้วครับ พี่น้อง ใครชอบน้ำแข็งก็จะได้ใช้อย่างแน่นอน

ถ้า 92 แล้วก็มาดูกันเลย เอิ๊กส์ๆ

เลเวล 92

อัดเต็มที่เลยครับ แรงๆแบบนี้ เอาไว้ใช้ทำ Dmg กับมอนเตอร์ 1 ตัว และใช้ใน PVP ทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง

ได้แค่เวล 2 อะ จะอัฟเวล 3 มะได้ มันต้องการเลเวล 93

Infernal pillar สกิลนี้ได้มาตอนเลเวล 92 เป็นสกิลโจมตีหมู่ โจมตี 3 hit เหมือนการปล่อยพลังไฟ เป็นทางยาว พุออกจะพื้น 2 ที แล้ว hit ที่ 3 เราก็ Teleport ไปตรงนั้นได้

Gracious Eddy สกิลนี้ได้มาตอนเลเวล 92 เป็นสกิลโจมตีหมู่ โจมตี 6 hit โดย hit แรกที่ขึ้น ทำให้ศัตรูถูกแข่งแข็ง เดินไม่ได้ 4 วินาที แต่ยังสามารถโจมตีได้ โดย Atk Speed -100% แล้ว 5 hit ที่เหลือคือ dmg ล้วนๆครับ อย่างกะพายุหิมะกระหน่ำใส่ อย่างสะใจ

Imitid Flash สกิลนี้ได้มาตอนเลเวล 92 เช่นเดียวกัน ร่ายตอนแรกช้านิดครับ หมุนๆอยู่นั่น พร้อมกับโจมตีไป 1 hit และก็มีไฟฟ้ารอบตัวเรา พร้อมช๊อตไปอีก 5 hit หลังจากนั้นเรามีโอกาศ 5 วิ ที่จะใช้สกิลสายฟ้าได้แรงอีก 110% (ในเลเวล 10) พอพ้น 5 วิ ก็จะ -Hp32 ไปอีก 5 วิ

เมื่อเกิน 92 มาเยอะแล้วก็ไปดูผังสกิลเวล 137 ละกัน เพราะเลเวล 137 เราสามารถอัฟสกิลของเลเวล 92 ได้สูงสุดนั้นเอง

Aqua Circle สกิลนี้ได้มาตอนเลเวล 98 เป็นสกิลโจมตีหมู่ 3 hit สกิลแรงมากกก หลังจากโจมตีไปแล้ว 3 hit พลังเวทย์ของตัวละครเราก็จะแรงขึ้นอีก 75% อยู่ได้ 3.5 วิ

เลเวล 150

สรุปแล้ว ในเลเวล 150 อะไรๆก็รุนแรงไปหมดเลย 555+ บ้าพลังมาก ขอเชิญเหล่า Incar ร่วมเทส สกิลได้ตั้งแต่วันที่ 12/11/08 Close Beta !! นั่นเอง

ชอบไม่ชอบยังไง คอมเม้นเลยครับ ยิ่งมากยิ่งดีครับ เพื่อทำให้อาชีพนี้ เล่นได้สนุกสนาน และสกิลที่ผมนำเสนอได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด !!

แนวทางการอัพสกิลนี้ได้มาจากคุณ CuteSinMs จาก BBS ของ Dekaron Official Site สามารถอ่านได้จากลิงค์นี้ http://bbs.asiasoft.co.th/showthread.php?t=114825 เราอ่านดูแล้วคนเขียนทำรีวิวไว้ดีทีเดียว เหมาะเป็นแนวทางสำหรับมือใหม่เลย

รูปผังสกิล ไม่ได้เอามาลงนะคะ ของที่บอร์ดก็เปิดดูไม่ได้ ครั้นจะทำให้ใหม่ก็กลัวไม่ตรงกับที่คนเขียน review ไว้ ยังไงถ้าใครอยากลองอัพตามคำแนะนำ ก็ไปตามลิงค์นี้เลยค่ะ ผังสกิล Incar Magician

Read more...

กิจกรรมต้อนรับ Open Beta

หลังจากที่ช่วง Close Beta เพื่อนๆได้พบกับ "ความมันส์เต็มขีดกับ6กิจกรรมสุดขีด" กันไปแล้ว มาถึงในช่วง Open Beta นี้ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับทุกเสียงตอบรับที่มีให้อย่างอบอุ่นในช่วง Close Beta ทางทีมงานมีกิจกรรมเตรียมไว้ต้อนรับเพื่อนๆกันอย่างมากมาย โดยแต่ละกิจกรรมนั้นรับรองได้ว่าเพื่อนๆจะต้องถูกใจแน่นอน ส่วนจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง และรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ

กิจกรรม "รวมพล Guild Extreme 30 คน 30 เลเวล!"

ระยะเวลากิจกรรม
วันที่ 25 พฤศจิกายน - 17 ธันวาคม 2551

รายละเอียด
กิลด์ที่สามารถหาสมาชิกได้อย่างน้อย30คน และสมาชิกทุกคนมีเลเวลอย่างน้อย 30 ในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับรางวัลในวันที่ 18 ธันวาคม (หลังปิดปรับปรุง Server ประจำสัปดาห์)
รางวัลสำหรับกิจกรรม
เงิน 5,000,000 DIL

--------------------------------------------
กิจกรรม "เลเวลอัพ รับไปเลย!"

ระยะเวลากิจกรรม
วันที่ 25 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2551

รายละเอียด
ผู้เล่นที่มีเลเวลถึงตามที่กำหนดจะได้รับของรางวัล โดยแบ่งดังนี้
ผู้เล่นที่มีเลเวล ถึง 30
ผู้เล่นที่มีเลเวล ถึง 40
ผู้เล่นที่มีเลเวล ถึง 50
ผู้เล่นที่มีเลเวล ถึง 60
ผู้เล่นที่มีเลเวล ถึง 70
ผู้เล่นที่มีเลเวล ถึง 80

รางวัลสำหรับกิจกรรม
จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง โดยรางวัลจะถูก Add เข้าทุก ID ที่ผ่านเงื่อนไขในวันที่ 7 มกราคม 2551 (หลังปิดปรับปรุง Server ประจำสัปดาห์)
--------------------------------------------
กิจกรรม "Fishing Fever คิดว่าแน่ มาลอง!"

ระยะเวลากิจกรรม
วันที่ 29-30 พฤศจิกายน และ 6-7 ธันวาคม 2551

รายละเอียด
สะสมปลาที่ตกได้ เพื่อนำมาแลกเป็นไอเทมภายในเกม โดยปลาที่ต้องการได้แก่

ปลา Chub 25 ตัว และ Sea Bass 25 ตัว

รางวัลสำหรับกิจกรรม
Copper Argate 1 EA
--------------------------------------------
กิจกรรม "กระหน่ำ EXP"

ระยะเวลากิจกรรม
วันที่ 25-30 พฤศจิกายน 2551

รายละเอียด
ได้รับ Exp เพิ่มเป็น 150% 200% ในช่วงเวลาดังต่อไปนี้
วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 16.00 ถึง 22.00 (150%)
วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 16.00 ถึง 22.00 (200%)
--------------------------------------------
กิจกรรม "Monster อสูรบุกเมือง!"

ระยะเวลากิจกรรม
วันที่ 13-14 ธันวาคม และ 20-21 ธันวาคม 2551

รายละเอียด
ปล่อย Monster 6 ชุดใหญ่ โดยจะเริ่มปล่อยชุดใหม่ทุกๆ 10 นาที ถ้าสามารถกำจัด Monster ได้หมดภายในช่วงเวลา (1 ชั่วโมง) จะได้รับรางวัลทั้ง Server

รางวัลสำหรับกิจกรรม
อัตราการตกไอเทมเพิ่มเป็น 300% (Update 24/11/2551)
(ระยะเวลา 1 ชั่วโมง โดยจะเริ่มหลังจากผู้เล่นปฏิบัติภารกิจสำเร็จ)

Read more...

Dekaron ต้องทำเควสหรือไม่ Quest สำคัญมั้ย

สำหรับเกมส์ Dekaron นี้ เควสไม่เยอะเหมือนคาบาล (Cabal Online) จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ถ้ามีเงิน มีของใส่ ก็ไม่จำเป็นต้องทำเควสเลย ยกเว้นเควสลงดันส่วนตัว ที่มีเป็นช่วงเลเวล อันนี้สมควรทำ เพราะมอนในดันให้ exp เยอะกว่าข้างนอก อย่างเช่น ดัน 34 Nunvice Shrine Dungeon

และเควสที่เป็น Commission Quest (ที่ Parca Temple จะเป็นเหมือนรูปป้ายประกาศ) อันนี้ถ้าหากเราต้องวิ่งไปตีมอนที่เป็นมอนเควสอยู่แล้ว ก็ให้แวะรับติดๆไปด้วย แต่ข้อเสียของการรับเควส Commission Quest คือ เราต้องจ่ายค่ารับเควสด้วย และเวลารับของรางวัลจากเควส ก็จะเป็นแบบสุ่ม ถ้าสุ่มได้ดี ก็แล้วไป แต่ถ้าสุ่มได้เงินน้อยกว่าที่เราต้องจ่ายค่าเควส ก็ซวยไป ช่วงเลเวลสูงๆ มีสุ่มได้หินตีบวก และแร่ออฟแรร์ ด้วย

เลเวลที่สามารถรับเควส Commission Quest ที่ Parca Temple ได้ มีดังนี้ เลเวล 30, 38, 45, 50, 55, 58

ที่เมืองอื่นไม่แน่ใจว่ามีเควสแบบนี้หรือเปล่า เพราะยังไปไม่ถึงค่ะ ถ้าเกมส์ Open Beta แล้ว จะหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ค่ะ

Read more...

Level 35 แล้ว หาสัตว์มาขี่กันเถอะ

แมพในเกมส์ Dekaron นี้ค่อนข้างกว้าง ถ้าต้องเดินข้ามแมพไปไหนสักที่นี่ใช้ระยะเวลาพอสมควรเลย คลิกกันจนเมื่อย -*- ฉะนั้นในเกมส์ Dekaron จึงมีระบบยานพาหนะไว้รองรับผู้เล่นด้วย ยานพาหนะในเกมส์ จะเป็นสัตว์ มีอยู่ 3 ชนิด คือ ม้า จิ้งจอก แล้วก็อีกตัวไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ออกแนวคล้ายๆ อสูร ทุกตัวมีคุณสมบัติเพิ่มความเร็วในการเดิน 25%

เราสามารถหาซื้อสัตว์มาขี่ได้จาก npc เมืองเกิด คือ Lua และ Braiken แต่มีเงื่อนไขคือ ตัวละครต้องเลเวล 35 และ Dil อย่างต่ำ 300,000 ตอนเราเลือกซื้อ เราสามารถซื้อได้ 3 แบบ คือ 1/3 แสน dil วัน, 15 วัน, 30 วัน /8 ล้าน dil

ตำแหน่ง npc ขายสัตว์ เมือง Braiken

พ่อค้าชื่อ Sandoval

Read more...

Nunvice Shrine Dungeon Guide

ต้องการเลเวล: 34 ขึ้นไป
ทางเข้า: อยู่ Map Requies Beach (เมื่อเข้ามาในแมพ Requies ให้กด M จะเห็นจุดสีขาวๆ บอกตำแหน่งดันเจี้ยน)
ค่าเข้า: 10,000 Dil
จำกัดเวลา: 30 นาที
รางวัล: 50,000 Exp เมื่อสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้

ดันเจี้ยนนี้ ถ้าเราเข้าไปตั้งแต่ตอนเลเวลน้อยๆ คือ 34-40 เราอาจจะจบดันไม่ได้ เพราะต้องเคลียร์มอนตลอดทางที่เดินไป แต่พอเลเวลสูงๆ สัก 40 ขึ้นไป เราสามารถวิ่งทิ้งมอนได้ในช่วงแรก ทำให้มีเวลามากพอจะเคลียร์ดันเจี้ยนได้ แต่อย่างไรก็ตาม มอนส์เตอร์ในดันเจี้ยนนี้ให้ exp ดีมาก และถ้ามีโอกาสได้เข้าไปตี Treasure Box ในห้อง Training Ground of Space ก็จะดีมาก เพราะแต่ละกล่องดรอบเงินประมาณ 3000 -5000 Dil

เตรียมเลือด และมานาไว้เต็มตัวได้เลย เพราะในดันนี้แทบไม่ดรอบของอะไรเลย นานๆ จะดรอบแร่ออฟ และแร่ตีบวกสักอัน จุดประสงค์ของการเข้ามาดันเจี้ยนนี้ก็เพื่อให้เราเก็บเลเวลช่วง 34-50 ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเตรียมของพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย!

1. คลิกคุยที่หน้าดันเจี้ยน พร้อมกับจ่ายเงินค่าเข้า 10,000 Dil

2. เมื่อเข้ามาแล้วให้คลิกคุยกับ Regena (ใครจะบัฟ ก็บัฟซะก่อนคุย)

3. เราจะถูกส่งเข้ามาใน Shrine ตอนเลเวลน้อยๆ เราควรค่อยๆ กำจัดแมงมุมตามทาง ทีละตัว ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง Lobby แต่ถ้าเลเวลสูงแล้ว เราสามารถวิ่งลาก หรือวิ่งผ่านพวกแมงมุมมาได้เลย

4. เมื่อเราวิ่งมาถึง Lobby เราจะเจอกับแมงมุมยักษ์ Spider Soul จัดการฆ่าซะ



5. ห้อง Lobby นี้จะเป็นห้องกลาง เชื่อมต่อไปยังห้องอื่นๆ 3 ห้อง ห้องแรกที่เราต้องไปคือ Underground Monastry

6. เมื่อเข้ามาในห้องแล้วให้เดินตรงไปนิดหนึ่ง จะเจอทางให้เลี้ยวขวา เลี้ยวเข้าไปจะเจอประตู Small Wooden Gate พังประตูเข้าไปข้างใน จะเจอแมงมุมยักษ์ 2 ตัว Spider Soul จัดการฆ่าซะ แล้วก็อย่าลืมตีกล่องสมบัติ Treasure Box ด้วย จะได้เงินดรอบประมาณ 3000-5000 Dil (สำหรับใครที่คิดว่าจะไม่จบดันเจี้ยน ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องนี้ แต่สำหรับคนที่จะจบดันเจี้ยนเพื่อเอา Exp 50000 จำเป็นต้องเข้าห้องนี้)



7. ออกจากห้อง Spider Soul ให้เราหาประตู Small Wooden Gate อีก 4 ห้อง อยู่ใกล้ๆกัน เมื่อเจอแล้วก็ให้พังประตูเข้าไปฆ่าแมงมุมประจำห้อง Spider Queen ให้หมด 4 ห้องก็ 4 ตัว



8. เมื่อฆ่าได้ครบ 4 ตัวแล้วให้วิ่งเข้าไปที่ห้อง Sacrifire Chamber ก่อนเข้าไปให้เตรียมตัวบัฟให้พร้อม เพราะเราจะโดนมอนรุม 1 ฝูง



9. เมื่อกดคลิกเข้ามาในห้องแล้ว เราจะเจอ Spider Soul พร้อมกับลูกน้อง ให้รีบจัดการฆ่าซะ แล้วอย่าลืมตี Treasure Box



10. เสร็จธุระแล้วให้คลิกคุยกับ Sacrifire Chamber Exit ออกมา ไม่ต้องปรับมุมกล้อง ให้วิ่งตรงไป แล้วเลี้ยวซ้าย เลาะไปตามทาง จนเจอกับ Small Wooden Gate พังประตูเข้าไป แล้วมองหา Skeleton Knight จัดการฆ่าทิ้งซะ



11. จากนั้นให้วิ่งออกมาทางเดิม แล้วเลี้ยวซ้าย วิ่งตรงไป Labotary คลิกคุยเพื่อเข้าไปยัง Labotary



12. เมื่อเข้ามาเราจะเจอฝูงมอน ทั้งระยะประชิด และยิงไกล ถ้าไม่อยากสู้ และพอทนมอนได้ ก็ให้มองไปทางซ้าย เพื่อตีประตู Small Wooden Gate แต่ถ้าใครจะเคลียร์มอนก่อน แล้วค่อยตีประตูก็ได้



13. วิ่งเข้ามาเราจะเจอประตู Small Wooden Gate อีก 1 อัน ก่อนตีประตู แนะนำให้เคลียร์มอนให้โล่งก่อน เพราะเราจะยึดพื้นที่หน้าประตูเก็บแมงมุมยักษ์ Lord Kunda

14. ตีประตูเสร็จ อย่าพึ่งบุ่มบ่ามวิ่งเข้าไป เพราะในห้องมีมอนยิงไกลด้วย จะเดินลำบาก ให้ค่อยๆ ขยับเข้าไปล่อแมงมุมยักษ์ออกมา หลังจากฆ่าแมงมุมเสร็จให้วิ่งกลับไปที่ Lobby



16. เมื่อเข้ามาใน Lobby แล้วให้วิ่งไปทางเข้า Training Ground of Space

17. หลังจากเข้ามาใน Training Ground of Space แล้วให้วิ่งไปทางขวาก่อน ฆ่ามอนให้หมด แล้วตีกล่อง Treasure Box จากนั้นวิ่งย้อนกลับมาทางเดิม



18. คลิกคุยกับ Training Stone เราจะถูกวาร์ปเข้ามาห้องเขาวงกต ให้วิ่งไปทุกบล็อคของเขาวงกต ทุกบล็อคจะมีสะพานเชื่อมต่อกัน แต่บางบล็อคเราต้องตี พวก Golden Treasure Box และ Treasure Box of Crespo ก่อน ถึงจะมีสะพานเชื่อมบล็อคให้ ให้ตีมอนและ Treasure Box ในนั้นให้หมด แล้วกลับออกมาข้างนอก จากนั้นให้คลิกคุยเพื่อ ออกไป Lobby





ปล. Treasure Box จะดรอบของเควส ที่ไว้เจอบอสแมงมุมตัวสุดท้าย ของเควสจะมีอยู่ 3 ชนิดคือ Relic of Goddess [Thread], Relic of Goddess [Fang], Relic of Goddess [Gem] ของเควส 3 ชิ้นนี้ จะดรอบรอบละ 1 อัน และมีโอกาสดรอบซ้ำ ส่วนมากเราจะได้แต่ Tread และ Fang ซ้ำๆกัน แต่ Gem นี่ดรอบยากมาก เอาเป็นว่ารอบไหนได้ Gem ก็มีโอกาสเจอบอสแระ



19. เมื่อเข้ามาใน Lobby แล้ว ให้วิ่งไปทาง Inner Part of Shrine แล้วคลิกคุยเพื่อเข้าไปข้างใน

20. เมื่อเข้ามาให้เคลียร์มอนให้หมด แล้วคลิกคุยกับ Sealed Statue of Goddess ถ้าหากเราเก็บเควสมาหมด ตัวเควสจะให้เราตอบว่า "ตกลง ข้าจะไป" แต่ถ้าไม่มีคำตอบนี้แสดงว่าเราต้องกลับไปเคลียร์เควสในข้อ 8 และข้อ 17 ก่อน บางคนวิ่งเพลินๆ อาจจะลืม หรือข้ามไป



21. เมื่อตอบตกลงแล้วให้วิ่งไปทางซ้าย หรือ ขวา ก่อนก็ได้ จะเจอกับ มอน และ รูปปั้นสูงๆ Statue of Stoppage ให้ฆ่ามอนให้หมดก่อน แล้วค่อยยิงรูปปั้น ถ้าเรายิงรูปปั้นก่อนฆ่ามอน เดี๋ยวจะลำบาก เพราะหลังจากที่รูปปั้นถูกทำลาย จะมี Frizkhan ออกมารุมเรา 3 ตัว และห้ามถอยหนีไปทางที่เราเดินเข้ามา เพราะข้างหลังจะมีอีก Frizkhan ีอีก 3 ตัวยืนรอเช่นกัน Frizkhan มีสกิลทำให้เราเดินช้าด้วย หนีก็ลำบาก มีวิธีเดียวคือ กดเลือดสู้



22. หลังจากฆ่า 3 ตัวที่รุมเราแล้ว ก็ให้เดินมาฆ่า อีก 3 ตัวที่เหลือ จากนั้นค่อยวิ่งไปอีกทาง เราจะเจอรูปปั้นเหมือนกับทางด้านโน้น ให้ทำเหมือนกัน



23. เมื่อจัดการฆ่า Frizkhan หมด เราจะเห็นทางไป ที่อยู่ข้างหลัง Sealed Statue of Goddess ในนั้นจะมีมอนอยู่เหมือนกัน ถ้าหากมีเวลาเหลือ และอยากเก็บ Exp ก็ให้เดินขึ้นไปเคลียร์มอนได้เลย เคลียร์มอนเสร็จให้วิ่งกลับลงมาคุยกับ Sealed Statue of Goddes เพื่อ รับพรและรับของรางวัลคือ Exp 50000



24. สำหรับคนที่ไม่มีของเควส 3 ชิ้น เพื่อเรียกบอสแมงมุม ก็สามารถรอเวลาออกดันได้เลย ประมาณ 60 วินาที แต่ใครมีของเควสครบ และต้องการเรียกบอส ให้รีบวิ่งตรงขึ้นไป เพื่อคุยกับ Throne of Goddess ถ้าเรามีของเควสครบ เราจะเจอบอสแมงมุมตัวยักษ์ชื่อ Wrath Vine ระบบจะนับเวลาใหม่ 10 นาทีถอยหลัง หมายความว่าเรามีเวลาฆ่าบอสแค่ 10 นาที วิธีสู้คือยืนชน กดเลือดสู้ เพราะเราจะไม่มีเวลากดเดินหนีเลย เดินหนีก็ไม่หลุดด้วย ต้องสู้จนกว่าจะตายกันไปข้าง ของรางวัลที่ได้จากบอสแมงมุม คือ A ring of soul คุณสมบัติ +95 Hp, +60 Mp, +35 Poison Damage ขายทิ้งร้าน 0 Dil ใส่แหวนอย่างอื่น ดีกว่าใส่แหวนอันนี้ -*-



สรุปแล้วไม่คุ้มกับค่าเลือดที่กดไปเลย แต่ถ้าใครอยากเจอความตื่นเต้นก็ลองเรียกดู

Read more...

Stat สำหรับเกมส์ Dekaron Online

เกมส์ Dekaron Online แบ่ง Stat Point ออกเป็น 4 Stat ดังนี้

Strength (STR) เพิ่ม Physical Damage สำหรับอาวุธประเภทดาบ มีด ขวาน กระบอง
Dexterity (DEX) เพิ่ม Physical Damage สำหรับอาวุธประเภทธนู และแส้ มีผลกับอัตราความสำเร็จในการ attack, block และ guard
Spirit (SPR) เพิ่ม Magic Damage และ MP สูงสุด มีผลกับ Cursed Attack
Health (Heal) เพิ่ม HP สูงสุด และเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพ

เกมส์นี้ Defense ไม่มีผลกับเวทย์มนต์ ถ้าจะป้องกันเวทย์มนต์ต้องหาประดับ ที่มีคุณสมบัติ Resist Magic Damage เท่านั้น
Read more...

Segnale Guide

อาชีพ Segnale หรือพระ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีแนวทางการเล่นที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสไตล์ของผู้เล่น และนี้คือสายหลักๆ ที่นิยมของอาชีพ Segnale

1. สายบู๊ล้างผลาญ
สายนี้จะใช้แส้เป็นอาวุธ แนวทางการอัพ stat คือ อัพ Spirit แค่พอถืออาวุธ และ Health แค่พอให้ทนมอนส์เตอร์ได้ ที่เหลืออัพ Dexterity
ข้อดีของสายบู๊ล้างผลาญคือ ทำดาเมจได้ดี และมีมานาเพื่อใช้สกิลได้พอเพียง
ข้อเสียของสายบู๊ล้างผลาญคือ เลือดน้อย และจะโดน Knonck back บ่อย

2. สายแทงค์
สายนี้สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแส้ และมีดเป็นอาวุธ แต่จะเลือกใช้อาวุธที่เลเวลต่ำๆ แนวทางการอัพ Stat ให้อัพ Strength, Dexterity, และ Spirit แค่พอถืออาวุธได้ (ขึ้นอยู่กับว่าใช้แส้ หรือมีด) ที่เหลืออัพ Health
ข้อดีของสายนี้คือ มีเลือดเยอะมาก และ Def ก็เยอะ
ข้อเสียคือ ทำดาเมจได้น้อยมาก และมานาก็มีน้อย Support ปาร์ตี้ไม่ได้

3. สายฮีล
สายนี้ใช้แส้เลเวลต่ำเป็นอาวุธ สายนี้จะมีประสิทธิภาพมากๆ ก็ตอนเลเวลสูง ที่มีสกิล Cursed Field และ Evil Crow ใช้ แนวทางการอัพ Stat ให้อัพ Dexterity แค่พอถืออาวุธได้ และอัพ Health แค่พอให้ทนมอนส์เตอร์ได้ ที่เหลืออัพ Spirit
ข้อดีของสายนี้คือ มีมานาไว้ support ปาร์ตี้มาก และ ใช้สกิลสาย Curseได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงเลเวลหลังๆ เป็นที่ต้องการของปาร์ตี้มาก
ข้อเสียคือ บู๊ไม่ได้ และตัวบางมาก เก็บเลเวลเองไม่ได้ ต้องพึ่งพาปาร์ตี้อย่างเดียว

4. สายสมดุล (บู๊+แทงค์)
สายนี้ใช้แส้เป็นอาวุธ Stat อัพ Dexterity + Spirit แค่พอถืออาวุธได้ ที่เหลืออัพ Health
ข้อดีของสายนี้คือ มีมานาใช้ในระดับปานกลาง การทำดาเมจปานกลาง แต่อึด ถึก ทน
ข้อเสียของสายนี้คือ ทำดาเมจได้ไม่ดีเท่าสายบู๊ล้างผลาญ และก็ไม่อึดเท่าสายแทงค์เต็มตัว Support ปาร์ตี้ก็ไม่เต็มที่ เรียกได้ว่าเดินสายกลางจริงๆ

แนวทางการอัพสกิลของ Segnale
สกิลของ Segnale จะมีอยู่ 3 สายหลัก คือ Heal, Blood และ Curse โดยทั่วไป Segnale จะอัพสกิลใช้แค่ 2 สายจาก 3 สายหลัก สายที่นิยม มีดังนี้

Heal / Blood
สกิลสายนี้เหมาะสำหรับคนที่เล่น สายสมดุล สามารถ Support ปาร์ตี้ได้บ้างและบู๊เองด้วยสกิลสาย Blood ก็ได้

Curse/ Blood
สกิลสายนี้เหมาะสำหรับคนที่เล่นสายบู๊ล้างผลาญ สกิลสำหรับบัฟ และฮีล ไม่อัพเลย เน้นทำดาเมจอย่างเดียว

Healing/ Curse Build
สกิลสายนี้เหมาะสำหรับคนที่เล่นสายฮีล สกิลสายฮีลสำหรับ Support ปาร์ตี้ และสกิลสาย Curse สำหรับช่วยปาร์ตี้ Debuff มอนส์เตอร์

Read more...

Incar Magician Guide

Incar Magician เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าเล่นเหมือนกัน สกิลเกือบทั้งหมด เป็นสกิลยิงหมู่ ปาร์ตี้ใหญ่ๆ นี่ถือเป็นอาชีพที่ขาดไม่ได้เลย ส่วนใหญ่เราจะให้ Knight หรือ Bagi ลากแล้ว Mage ลงสกิล เป็นการเก็บเลเวลที่ไวมากๆ หรือจะเก็บเองคนเดียวก็ยังไหว ลากทีละประมาณ 3-4 ตัว แล้วลงสกิลเองก็ถือว่าไว

แนวทางการอัพ Stat ของ Incar Magician
Incar Magician จะอัพ Str แค่พอให้ถืออาวุธได้ ส่วน Spr อัพแค่พอให้ถืออาวุธ และมีมานาใช้พอเพียง ที่เหลืออัพ Health ช่วงแรกๆ เราจะอัพ 3 spr: 2 heal พอช่วงเลเวลสูงๆ ค่อยเปลี่ยนมาอัพ heal เต็มๆ

แนวทางการอัพ Skill ของ Incar Magician

การอัพสกิล ของอาชีพ Incar Magician นี้ค่อนข้างหลากหลาย เล่นไปได้หลายทาง โดยหลักๆแล้ว แบ่งออกตามนี้

1. เล่นธาตุเดียว ธาตุใดธาตุหนึ่งไปเลย
หลายๆคน คงเริ่มมีคำถามว่า ทำไมถึงเลือกเล่นแค่สายเดียว ถึงแม้สกิลเลเวลต่ำๆจะทำดาเมจได้ไม่มาก แต่สกิลเลเวลต่ำๆนั้นร่ายไว และดีเลย์ก็ไว ถ้าเราอัพจนเต็มทุกสกิล ก็ถือว่าทดแทนกันได้ และเราก็ไม่ต้องปวดหัวกับ short cut สกิลเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีสกิลพอยท์เหลือ เราก็ควรจะอัพสกิลธาตุอื่นมาใช้ด้วย เพราะบางครั้งถ้าเราต้องไปสู้กับมอนสเตอร์ที่มีความสามารถต้านทานธาตุที่เราใช้เป็นหลักแล้ว ก็คงแย่เหมือนกัน เพราะเราไม่มีสกิลสำรองไว้เลย

2. เล่นสองธาตุ เลือกมาแค่ 2 ธาตุเป็นสกิลหลัก
สายนี้ดูจะเป็นที่นิยมมากที่สุด ส่วนมากจะเลือกเล่นกันระหว่าง สายไฟ+น้ำแข็ง และ สายไฟ+สายฟ้า สายนี้จะอัพเลเวลของแต่ละสกิลแค่ 1-3 เท่านั้น ยกเว้นสกิลบัฟ ที่ยังต้องอัพเต็ม ข้อดีคือมีสกิลเวทย์ใหญ่ๆให้ใช้ถึง 2 สาย และเมื่อเลเวลสูงเราสามารถ รีสกิล เพื่ออัพเวทย์ใหญ่ได้เต็มทั้ง 2 สาย

3. เล่นทั้งสามสาย อัพสกิลทั้ง 3 ธาตุ
การเลือกเล่นสามสายตั้งแต่เลเวลแรกๆ ดูจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะมอนเลเวลต่ำๆ โดยปกติเรายิงเวทย์แค่ 2 สกิล ก็เกือบตายหมดแล้ว อย่างมากก็ซ้ำด้วยสกิลที่ต่ำกว่าอีกนิดหน่อย เพราะฉะนั้นการที่เราต้องเสียพอยท์เพื่อมาอัพสกิลของสายที่ 3 ดูยังไงก็ไม่คุ้ม เพราะเราทุกครั้งที่เลเวลอัพ เราต้องเลือกว่าจะเสียสกิลพอยท์อัพบัฟ หรือจะอัพสกิลใหม่ หรือจะอัพ Mastery ของแต่ละธาตุ เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ไม่แนะนำให้เล่นทั้ง 3 สาย ควรเลือกแค่ 1 หรือ 2 สายก่อน

แต่สำหรับคนที่เลเวลสูงๆแล้ว ต้องการรีสกิลมาเล่นเวทย์ทั้ง 3 ธาตุ ดูจะเข้าท่ากว่า เพราะเราสามารถอัพสกิลเลเวลต่ำๆ แค่ 1 แล้วเก็บพอยท์ไว้อัพเฉพาะสกิลเลเวลสูงๆได้

เลือกใช้ Wand หรือ Staff ดี?
ตอนที่เรายังเลเวลไม่สูง การเลือกใช้ Wand ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเราไม่ต้องเปลือง stat เพื่ออัพ Strength แต่เมื่อเลเวลสูงขึ้นการเลือกใช้ Staff น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทำไม? มาดูกัน

Staff เลเวล 105 ให้ดาเมจสูงสุดที่ 977 ในขณะที่ Wand เลเวล 105 ให้ดาเมจสูงสุดที่ 834 ต่างกันเกือบ 100 ซึ่งมาหักลบกันแล้วระหว่าง stat ที่อัพเพื่อให้ใส่ wand (22 str+264 spr) กับ stat ที่อัพเพื่อให้ใส่ staff (55 str +254 spr) ได้นั้น ต่างกันแค่ 11 point หลังๆ เราจะไม่อัพ spr แล้วเพราะ spr ไม่ทำให้ดาเมจเราสูงขึ้นสักเท่าไหร่ และเราก็ไม่ต้องการมานาแล้ว เพราะสกิล mana force เร่งมานาทันใช้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหลังๆนี่เราจะอัพเฉพาะ Health เท่านั้น

จากการคำนวณ ถ้าเราถือ Wand เราจะได้ เลือดมา 200 +33 Def ซึ่ง 33 Def นี้ไม่ถือว่าเยอะ คราวนี้เรามาดู Staff ข้อได้เปรียบที่เราได้จาก Staff คือ Staff สามารถเจาะได้ถึง 4 รู ในขณะที่ Wand เจาะได้แค่ 3 รู แล้ว 1 รูที่เพิ่มมานั้น ถ้าเราใส่หินธาตุ 4-5% จะทำให้เรายิงแรงขึ้นประมาณ 700 เลยทีเดียว *0* สุดท้ายแล้วการเลือกใช้ Staff แทน Wand ดูจะมีภาษีดีกว่า

Read more...

Segita Hunter Guide

Segita Hunter หรือนักธนู เกมส์นี้นักธนูสามารถโจมตีได้ทั้งระยะไกล โดยใช้ Bow หรือ Crossbow และโจมตีระยะใกล้ได้ด้วย โดยใช้ Dagger

ข้อดี ข้อเสียของการเลือกใช้อาวุธแต่ละชนิด

Bow เร็วกว่า Crossbow แต่ช้ากว่า Dagger /ทำดาเมจได้มากกว่า Dagger แต่น้อยกว่า Crossbow /โจมตีระยะไกล
Crossbow ช้ากว่า Bow และ Dagger/ทำดาเมจได้ดีกว่า Bow และ Dagger / โจมตีระยะไกล
Dagger เร็วกว่า Bow และ Crossbow/ ทำดาเมจได้น้อยกว่า Bow และ Crossbrow / โจมตีระยะประชิด


แนวการเล่น Segita Hunter

เริ่มแรก เลเวล 1-15 ให้ใช้ Bow เก็บเลเวล พอเลเวล 15 ให้อัพสกิล Rolling Attack ซึ่งเป็นสกิลสายมีด แล้วเปลี่ยนมาใช้ Dagger แทน สกิลนี้สร้างความเสียหายเป็นหมู่ ช่วงเลเวล 32-60 นี่เรียกได้ว่าเป็น Queen of PVP เลย อาชีพอื่นที่เลเวลพอๆกับเรา จะล้มเราไม่ลงก็เพราะสกิลหมู่นี้

พอสักเลเวล 60 สกิล Rolling Attack กับ Silent Killer เริ่มจะไม่เห็นผลแล้ว ทั้งการเก็บเลเวลและ PVP เพราะอาชีพอื่นก็เริ่มมีสกิลที่ทำดาเมจได้ดีกว่าเรา มีเพียงสกิล Deadspin เท่านั้นที่ยังพอช่วยเก็บเลเวลได้ และช่วงนี้เราจะเริ่มหันไปอัพสกิลสาย Bow และใช้ Bow ช่วยเก็บเลเวล จนกระทั่งเลเวล 90 ให้รีสกิลไปอัพสกิล Crossbow

การอัพสกิล Hunter ก่อนเลเวล 90 (Dagger/Bow)

Hunter Tree:
Cure Wounds: Max (5)
Wind Moving: Max (5)
Terrace Magic: 1
Speed: None

Combat Tree (Dagger):
Combat Mastery: 1
Violent Step: 1
Rolling Attack: Max (10)
Silent Killer: Max (5)
Deadspin: 7

Archer Tree:
Bow Mastery: Max (10)
Xbow Mastery: 1
Critical Fire: Max (5)
Ice Arrow: 7
Triangle Shot: Max (10)
Vulnerable Shot: 1
Explosion Arrow: 5
Wonder Firing: 4
Crow Wings: 2
Strike, Skull, Multiple Shot: อัพแค่ 1 เป็นทางผ่าน

การอัพสกิล Hunter หลังเลเวล 90 (Bow/Crossbow)

Hunter Tree:
Cure Wounds: Max (5)
Wind Moving: Max (5)
Terrace Magic: lvl 1
Speed: None

Combat Tree (Dagger): ไม่ต้องอัพ

Archer Tree:
Bow Mastery: Max (10)
Xbow Mastery: Max (10)
Critical Fire: Max (5)
Ice Arrow: Max (Cool
Triangle Shot: Max (10)
Vulnerable Shot: Max (10)
Explosion Arrow: Max
Slow Arrow: Max
Wonder Firing: Max
Crow Wings Max
Fiores Nova: Max
Demolition Bomb: Max
Strike, Skull, Multiple, Guide, Piercing: อัพแค่ 1 เป็นทางผ่าน

ถ้าหากเลเวลสูงมากแล้ว แล้วยังมีสกิลพอยท์เหลือ ก็ให้อัพสาย Combat ตามนี้เพื่อเอาสกิล Deadspin มาใช้
Combat Mastery: 1
Violent Step: 1
Rolling Attack: 1
Silent Killer: 1
Deadspin: 8

Hunter เลเวลสูงๆนี่น่ากลัวมากๆ ยิงไกลก็แรง เข้าไปใกล้ก็โดนมีดจิ้มอีก

การอัพ Stat ของ Segita Hunter

Stat เริ่มต้นของ Segita Hunter คือ 3-6-3-3 ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้ง Bow และ Dagger เลเวล 1

ตั้งแต่ Lv 7 ให้เปลี่ยนมาใช้ Dagger แล้วเก็บ Bow ไว้ Slot ที่2 เพราะฉะนั้นช่วงแรกนี้เราจะอัพ Strength และ Dex เพื่อให้พอถืออาวุธทั้ง Dagger และ Bow ได้ ที่เหลืออัพ Health ตอนนี้เรายังคงใช้มีดเก็บเลเวลเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเราจะถือมีดที่เลเวลเท่ากับเราได้ แต่ Bow เราจะถืออันที่เลเวลต่ำกว่าเรา

หลังเลเวล 60 ให้หยุดอัพ Strenght และ Health แล้วหันมาอัพ Dexterity เพื่อให้เราสามารถถือ Bow เลเวลสูงๆได้ เพราะเป้าหมายของเราคือ เมื่อเราเลเวล 82 เราจะใช้สกิล Crow Wings หรือใครจะอัพ Health กับ Strenght ต่อก็ได้ แต่เมื่อเลเวล 72 หรือ 82 ให้ไปรี stat เพื่อให้ถือ Bow เลเวลสูงก็ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของแต่ละคน

จากเลเวล 85 ขึ้นไปนี้เราจะเปลี่ยนมาถือ Crossbow คู่กับ Bow เราจะไม่ใช้ Dagger อีกแล้ว เพราะฉะนั้นให้อัพ Strength เพื่อถือ Crossbow เลเวล 85 ด้วย

หลังจากเลเวล 90 เราควรจะถือได้ทั้ง +4 Bow และ Crossbow หลังจากนี้ก็ให้อัพ Stat เพื่อถือ Bow และ Crossbow ในระดับถัดไปได้ ที่เหลือลง Health

Read more...

Vicious Summoner Guide

Vicious Summoner เป็นอาชีพที่สามารถเสก Summon ให้ออกมาช่วยต่อสู้ได้ Summon ของ Vicious Summoner จะมี 2 ประเภท คือ Libido และ Beast

ความสามารถของ Libido คือ สาป, ติดพิษ, สตัน และดูดเลือด Summon สาย Libido มี Defense และเลือดเยอะกว่าสาย Beast

ความสามารถของ Beast คือ การโจมตีแบบธาตุ สายฟ้า, ไฟ, น้ำแข็ง Summon สาย Beast ทำดาเมจได้ดีกว่าสาย Libido
Summon เหล่านี้สามารถโจมตีได้ทั้งระยะไกล และระยะประชิด ขึ้นอยู่กับว่าเรียกใช้ตัวไหน

Vicious Summoner แบ่งออกเป็น 2 สายคือ

1. Staff Summoner
ข้อดีของ Staff Summoner คือ โจมตีระยะไกล เวลา PVP ก็ได้เปรียบโดยเฉพาะถ้าคู่ต่อสู้คือ Incar Magician และ Segita Hunter เพราะ Summon สามารถเป็นตัวแทงค์ให้เราได้ ส่วนเราก็โจมตีคู่ต่อสู้จากระยะไกล และ Staff สามารถเจาะรูได้ถึง 4 รู
ข้อเสียของ Staff Summoner คือ ก่อนเลเวล 52 จะไม่มีสกิลหมู่ใช้เลย และสกิลที่ใช้ก็ร่ายช้า เพราะฉะนั้นช่วงแรกนี่เก็บเลเวลลำบากอยู่เหมือนกัน

2. Twin Blades Summoner
ข้อดีของ Twin Blades คือ Twin Blades เป็นอาวุธที่ดูเท่ห์ที่สุดในเกมส์ ^^ สกิลที่ใช้ก็เท่ห์ ^^ และออกสกิลได้รวดเร็ว แรง PVP หรือตีบอสได้แรง
ข้อเสียของ Twin Blades คือ ก่อนเลเวล 52 ไม่มีสกิลหมู่ และบางทีก็ต้องเป็นตัวแทงค์ทั้งที่ตัวเองก็ Def น้อยอยู่แล้ว

ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเล่น Summoner สายไหนดี ช่วงแรกแนะนำให้ลองเล่นแบบสายผสม ลองใช้ทั้ง Staff และ Twin Blades ถ้าชอบสไตล์ไหนมากกว่า หลังๆ ก็ รีสกิล แล้วเน้นไปสายใดสายหนึ่งก็ได้

การอัพ Stat ของ Vicious Summoner
- ถ้าใช้ Twin Blades ช่วงเลเวล 1-80 ให้อัพ Spririt นำ แล้วตามด้วย Strength และ Health เท่าๆกัน หรือใครจะเน้น Strength ก็ได้ พอเลเวล 80 ขึ้นไป ให้อัพ Spirit และ Strength เพื่อให้ถืออาวุธได้ นอกนั้นให้อัพ Health

- ถ้าใช้ Staff ให้อัพ Spirit และ Strength เพื่อให้ถืออาวุธได้ นอกนั้นให้อัพ Health

การอัพสกิลของ Vicious Summoner
Summon
การเลือกใช้ Summon ช่วงแรก ก่อนเลเวล 108 ให้เลือกใช้ Summon สายใดสายหนึ่งไปก่อน ถ้าเราเลือกใช้ Staff ให้เลือก Summon สาย Libido เพราะ Summon สายนี้เลือดและ Defense เยอะสามารถแทงค์ให้เราได้ แต่ถ้าเราใช้ Twin Blades ให้เลือก Summon สาย Beast เพราะ Summon สายนี้โจมตีแรง ช่วยเราตีได้ดีกว่า

หลังจากเลเวล 108 แล้วให้รีสกิล แล้วอัพ Summon ทั้ง 2 สายมาใช้ สกิล Beast/Libido Mastery ไม่จำเป็นต้องอัพเต็ม เอาสกิลพอยท์ไปอัพ Summon Lv 108 มาใช้ทั้ง 2 สายดีกว่า

Combat/Cosmo
สำหรับคนที่เลือกใช้ Staff
-Vicious Mastery
-Vicious Thorn
-Venom Light
-Summon Ghost
-Infected Earth

สำหรับคนที่เลือกใช้ Twin Blades
-Twin Mastery
-Devil Swing (ใช้ตอน PVP)
-Blade Dance
-Poison Sword
-Blade Spin (ใช้เคลื่อนไหวระหว่างการใช้สกิล ตอน PVP)

สำหรับคนเล่นสายผสม ใช้ทั้ง Staff และ Twin Blades-Twin/Vicious Mastery
-Blood Bats
-Skin of the Foregin Relam
- ทุกสกิลใน Cosmos

เพิ่มเติม
การใส่ออฟลงในอาวุธที่เจาะรู ช่วงเลเวลแรกๆ ให้ใช้หินที่เพิ่มความสามารถ +38 poision damage แต่หลังจากเลเวล 72/78 ไปแล้วให้เลือกใช้หิน 4-5% ช่วงหลังๆหินเปอร์เซนต์จะสร้างความเสียหายได้มากกว่า

Read more...

Bagi Warrior Guide

อาชีพ Bagi Warrior ส่วนใหญ่แล้วเล่นมาเพื่อเป็นตัวแทงค์ เพราะ Bagi มีทั้งเลือดและพลังป้องกันที่สูง แต่ถ้าใครจะเล่นสายโจมตีก็ไม่ผิด แต่ว่าพลังโจมตีจะน้อยกว่าอาชีพอื่นที่เล่นสายโจมตี จุดเด่นของ Bagi Warrior คือความสามารถของสกิลที่มีผลทั้ง knockback, stun และยกเลิกสกิลของคู่ต่อสู้ได้ในคราวเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นตัวป่วนตัวยงเลย ว่ากันว่า Bagi นี่คือ "King of PVP" เลยทีเดียว ใครที่รักการ PVP เป็นชีวิตจิตใจ น่าจะลองเล่น Bagi Warrior ดูนะ

Stat Guide for Bagi Warrior
การอัพ stat ของ Bagi Warrior แบ่งออกเป็น 4 สายหลักๆ ดังนี้
1. Str/Heal: สายนี้จะอัพ 3 str/2 heal ต่อเลเวล ถ้าเลเวลไหนจะต้องเปลี่ยนอาวุธ ค่อยอัพ dex เพิ่มเพื่อให้ใส่อาวุธได้
2. Heal/Str: สายนี้จะอัพ 3 heal/2 str ต่อเลเวล ถ้าเลเวลไหนจะต้องเปลี่ยนอาวุธ ค่อยอัพ dex เพิ่มเพื่อให้ใส่อาวุธได้
3. Str ล้วน: สายนี้ดีสำหรับการเก็บเลเวล และล่าบอส เป็นปาร์ตี้ อัพ 5 str ต่อเลเวล ถ้าเลเวลไหนจะต้องเปลี่ยนอาวุธ ค่อยอัพ dex เพิ่มเพื่อให้ใส่อาวุธได้
4. Heal ล้วน: สายนี้ดีสำหรับการ PVP เพราะว่าอึดมาก ล้มยาก อัพ 5 Heal ต่อเลเวล และอย่าลืมเผื่อ stat ไว้อัพ dex และ str สำหรับอาวุธด้วย

Skill Guide for Bagi Warrior
การอัพสกิลของอาชีพ Bagi Warrior
- ช่วงแรก สกิล Martial Mastery และ Horn Mastery อาจจะดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ แต่พอเลเวลสูงขึ้นไปสักประมาณเลเวล 60 จะเริ่มเห็นผล แนะนำให้อัพสกิลนี้ไว้ ช่วยได้เยอะเหมือนกัน

- Wild Bash และ Double Smash ช่วงแรกๆ มีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่ต้องอัพมากเกิน เพราะเดี๋ยวพอเลเวลสูงๆ จะไม่ได้ใช้แล้ว

- สกิลต่อไปนี้ให้อัพเต็มเลย มีประโยชน์อย่างมาก instinct speed, instinct power, defensive, magical resistance, physical resistance, and resistance

- Hard Blow ช่วงแรกๆ มีประโยชน์มาก จะอัพจนเต็มเลยก็ได้ เพราะยังไม่มีสกิลให้อัพมากมาย แต่ตอนเลเวลสูงๆ สกิลนี้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว เพราะฉะนั้นตอนเลเวลสัก 80 ให้ไปรีสกิลทิ้งซะ อัพแค่ 1 พอ

- Triple Ravage เป็นสกิลที่ควรต้องอัพอย่างมาก เพราะมีความสามารถ knock back คู่ต่อสู้ และ cool time ก็สั้น สามารถใช้ซ้ำได้อย่างรวดเร็ว

- Bull Cry เป็นสกิลที่น่าอัพ อาจจะมีบางคนไม่เห็นด้วย แต่จริงๆแล้ว ทุกสกิลมันก็มีประโยชน์ในตัวมันเอง สกิลนี้มีความสามารถ knock back คู่ต่อสู้ที่อยู่รอบๆตัว และยังสามารถยกเลิกทั้งสกิลและการโจมตี ของคู่ต่อสู้ได้

- Shockwave มีความสามารถในการ stun คู่ต่อสู้ ใช้สำหรับ PvP ได้ดีทีเดียว เป็นสกิลเปิดสกัดไม่ให้คู่ต่อสู้วิ่งเข้ามาโจมตีเรา พอเราร่าย Shockwave เสร็จ ก็น่าจะได้ระยะที่คู่ต่อสู้เข้ามาใกล้ตัวเราแล้ว แต่ว่าด้วยผลของ stun ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถออกสกิลหรือว่าโจมตีเราได้ ก็จะเป็นโอกาสที่เราได้โจมตีก่อน

- Mad Bood มีประโยชน์มากในการ PvP ถึงแม้ 2-3 hit แรกจะช้า แต่ hit สุดท้ายนั้นจะรวดเร็วมาก พร้อมกับ knock back คู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถใช้สกิลหรือโจมตีเราได้

- Earthquake เป็นสกิลที่มีประโยชน์เช่นกัน ความสามารถของสกิลทำให้ติด stun ยังไงก็ต้องอัพไว้

- Tornado อันนี้แล้วแต่ บางคนก็ชอบใช้ บางคนก็ไม่ชอบใช้ สำหรับคนที่เลือกใช้สกิลนี้ก็เป็นเพราะ ความกว้างของสกิล และการโจมตีที่รวดเร็ว ทำให้ฝูงมอนสเตอร์ไม่สามารถโจมตีเราได้

- Violent Gale เป็นสกิลที่มีความสามารถ knock back เช่นกัน และสกิลจะโจมตี 3 ครั้งติดกันแต่ว่าเราต้องเข้าไปประชิดตัวคู่ต่อสู้ ถ้าไม่งั้นสกิลจะโดนคู่ต่อสู้ แค่ 1 หรือ 2 ครั้ง หรืออาจจะไม่โดนเลย

- Elemental Knuckles เพิ่มความแรงการโจมตีแบบธาตุ อัพไว้ไม่เสียหาย

Read more...

Azure Knight เล่นสายไหนดี มาดูกัน

Azure Knight เป็นอาชีพที่มีเส้นทางการเล่นหลากหลายมาก เพราะอาวุธและสกิลที่มีให้เลือกมากกว่าอาชีพอื่นๆ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจเล่น Azure Knight เราต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อน จะได้ไม่อัพสกิลผิดสาย

สายดาบคู่ (Dual Sword)
Azure Knight สายดาบคู่ จะเด่นเรื่องความไว ทั้งการโจมตีและการเคลื่อนที่ การทำดาเมจก็จัดว่าแรงอยู่เหมือนกัน แต่มีข้อเสียคือไม่อึด เพราะฉะนั้น Azure Knight สายดาบคู่ จะต้องฆ่าคู่ต่อสู้ให้ไว ไม่ให้คู่ต่อสู้มีโอกาสตีกลับได้
สกิลที่จำเป็นสำหรับ Azure Knight สายดาบคู่
- Dual Mastery
- Spout Anger
- Energetic Blade
- Strengthen Health
- Attack Acceleration

สายดาบโล่ (Sword & Shield)
Azure Knight สายดาบโล่ จะมีจุดเด่นที่พลังป้องกันมหาศาล เป็นตัวแทงค์และลากได้ดีเยี่ยม แต่ด้วยพลังป้องกันที่มากมายก็ต้องแลกกับดาเมจที่ทำได้น้อย ไม่เหมาะกับการเก็บเลเวลโดยลำพัง
สกิลที่จำเป็นสำหรับ Azure Knight สายดาบโล่
- Sword Mastery
- Sword Defense
- Blind Jab
- Shield Shove
- Air Smashing
- Strengthen Health
- Attack Acceleration

สายดาบสองมือ (Two-hand Sword)
Azure Knight สายดาบสองมือ จะค่อนข้างสมดุล ไม่เน้นไปทางใดทางหนึ่งมากนัก เพราะว่าอาวุธสองมือ ทำความเสียหายได้ค่อนข้างแรงอยู่แล้ว และพลังป้องกันก็ไม่น้อยเช่นกัน เพราะมีสกิล Two-hand Mastery ที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกัน นอกจากนี้ยังมีความสามารถของสกิล Sword Defense มาช่วยสนับสนุนในเรื่องของอัตราการ Block ศัตรู ถ้าอัพสกิลจนถึง Level 5 มีโอกาสติด Block ถึง 80% แถมด้วย Defense อีก 25%
สกิลที่จำเป็นสำหรับ Azure Knight สายดาบสองมือ
- Sword Mastery
- Genocide
- Sword Defense
- Strengthen Health
- Attack Acceleration
- Berserker
- Air Smashing
- Faedol Launch

สายขวานสองมือ (Two-hand Axe)
Azure Knight สายขวานสองมือ จุดเด่นอยู่ที่พลังโจมตีที่มากมายมหาศาล เปรียบได้กับปืนใหญ่เลยทีเดียวเพราะขวานมีค่า attack สูงที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับอาวุธทุกชนิดในเกมส์ แต่พลังโจมตีมหาศาลขนาดนั้นก็ต้องแลกมากับความเชื่องช้าในการเคลื่อนไหว และการโจมตี
สกิลที่จำเป็นสำหรับ Azure Knight สายขวานสองมือ
- Axe Mastery
- Genocide
- Strenghten Health
- Attack Acceleration
- Berserker
- Wrist Chop

สายกระบองสองมือ (Two-hand Mace)
Azure Knight สายกระบองสองมือ จุดเด่นอยู่ที่สกิลโจมตีหมู่ และตีเป็นวงกว้าง ทำให้กำจัดศัตรูได้เป็นจำนวนมาก มีข้อเสียคือ พลังป้องกันน้อย และก็ค่อนข้างอ่อนแอสำหรับการ PVP ตัวต่อตัว แต่ถ้าในสงครามสามารถ stun หมู่ได้เลย
สกิลที่จำเป็นสำหรับ Azure Knight สายกระบองสองมือ
- Mace Mastery
- Genocide
- Strenghten Health
- Attack Acceleration
- Heavy Blow
- Berserker
- Armor Breaker

สายผสม ดาบโล่+ อาวุธสองมือ
จุดเด่นของสายนี้คือ มีพลังป้องกันสูง และมีอัตราการ Block คู่ต่อสู้ มีความสามารถทั้งต่อสู้และป้องกัน ข้อเสียคือ กว่าจะเล่นสองสายได้ต้องเลเวลสูง แล้วก็เวลาต่อสู้ในสงคราม สับเปลี่ยนอาวุธไปมา อาจสับสนในชีวิตได้
สำหรับการอัพสกิลของสายผสม ดาบโล่+อาวุธสองมือ นี้ก็ให้อัพตามสายที่เล่นมา แต่อาจจะต้องสละบางสกิลออกไปบ้าง ไม่สามารถอัพได้เต็มๆทั้งหมด

สายผสม ดาบคู่+อาวุธสองมือ
คำจำกัดความของ Azure Knight สายนี้คือ ถ้าคู่ต่อสู้ยืนไม่ได้ เราก็จะไม่บาดเจ็บเลย นั่นหมายความว่า คู่ต่อสู้ต้องตายหรือปางตาย ภายในสกิลเดียว เพราะสายนี้พลังป้องกันน้อยมากๆ ถ้าไม่รีบฆ่า ก็จะโดนฆ่าซะเอง โดยปกติ อาวุธสองมือที่เลือกสำหรับคนที่เล่นสายนี้คือ ขวาน การผสมกับสายดาบคู่ทำให้ได้ความว่องไวมาทดแทน
การอัพสกิลของสายผสม ดาบคู่+ดาบสองมือ ให้อัพตามสายที่เล่นมา

การอัพ Stat ของ Azure Knight
การอัพ Stat ของ Azure Knight จะแบ่งเป็นสองสายหลักคือ
1. อัพ Dexterity และ Strenght แค่พอใส่อาวุธได้ ที่เหลืออัพ Health
2. อัพ Dexterity แค่พอใส่อาวุธได้ จากนั้นอัพ Health แค่พอให้ไม่ตายเวลาเก็บเลเวล ที่เหลืออัพ Strenght

ช่วงแรกๆ Knight จะยังใช้สกิลได้ไม่เต็มที่เพราะมานาน้อยมากๆ ให้อดทน กินมานาไปก่อน เพราะหลังๆพอเลเวลสูงแล้ว มานาจะพอใช้เอง อย่าด่วนอัพ Spirit!

คำขวัญประจำใจชาว Azure Knight "No mercy for the weak, no pity for the dying, no tears for the slain" แปล "ไม่มีความปราณี สำหรับผู้ที่อ่อนแอ, ไม่มีความสงสารสำหรับคนที่ใกล้ตาย, ไม่มีน้ำตาสำหรับการฆ่าล้าง"


Read more...

FAQ of Azure Knight

ไขปัญหาข้อข้องใจ สำหรับอาชีพ Azure Knight

1. สกิล Sword Mastery มีผลกับดาเมจดาบ 2 มือ (ดาบอันเดียว ถือสองมือ) หรือไม่?
ตอบ มีผล พวกขวานหรือกระบองก็เช่นกัน

2. สกิล Two-hand Mastery มีผลยังไง?
ตอบ Two-hand Mastery ไม่มีผลกับดาเมจดาบ 2 มือ แต่เป็นการเพิ่มพลังป้องกัน (defense) ถึงไม่ได้ถือโล่ ถ้าได้สกิลนี้ก็ช่วยได้เยอะ เพราะที่ lv5 ให้พลังป้องกัน 75

3. สกิล Sword Mastery จะช่วยเพิ่มดาเมจให้กับ ดาบคู่ (ดาบ 2 อัน ถือสองมือ)หรือไม่?
ตอบ ไม่ช่วย สกิลที่จะช่วยเพิ่มดาเมจให้กับดาบคู่มีแค่สกิล Dual Sword Mastery

4. จำเป็นต้องอัพสกิล Whirlwind จนเต็ม Max ของสกิลหรือไม่?
ตอบ ไม่จำเป็น เพราะคนเขียนไกด์นี้เค้าบอกว่า ตอนเลเวลสูง สกิลเลเวล 1 กับ เลเวล 10 แทบไม่ต่างกันเลย ให้ประหยัด point ไว้ดีกว่า

5. สกิล Insensibility สมควรอัพหรือไม่?
ตอบ ไม่จำเป็นต้องอัพ ยกเว้นว่าอัพไว้ใช้ตอนแลค หรือเอาไว้ใช้เวลาโดนยิงไกลๆ แล้วเดินหนีไม่ได้

6. เล่นสายผสมดาบคู่ กับอย่างอื่นอีกได้มั้ย?
ตอบ ได้ คนเขียนไกด์เค้าแนะนำให้เล่น ดาบคู่ ผสมกับดาบสองมือ ตอนเลเวลสูงๆ มันเวิร์คมากๆ

7. อาวุธสองมือชนิดไหน ดีที่สุด?
ตอบ กระบอง (Mace) เพราะสกิลที่ใชักับกระบองเป็นสกิลที่ตีกลุ่ม แล้วก็ติดสตัน (Stun) การเก็บเลเวลที่ไวที่สุดคือการฆ่าหมู่

8. สกิลอะไรบ้างที่ไม่จำเป็นต้องอัพเต็ม?
ตอบ สกิลต่อไปนี้ให้อัพแค่ 1 พอ power strike, sharpen blade, mace bash, bleed slash, cross pierce, triple slash, insensibility, berserk และก็ Whirlwind เป็นทางเลือกจะอัพเต็มหรือไม่ก็ได้ คนเขียนไกด์เค้าบอกว่า ถึงอัพมาเต็ม ก็อาจจะไม่มี short cut ว่างพอให้วางสกิล เพราะสกิลหลังๆ แรงกว่าอยู่แล้ว

9. สกิล Energetic Blade อัพแล้วคุ้มค่าหรือไม่?
ตอบ สกิลนี้เวลาใช้ ต้องไปยืนไกลๆ ให้ได้ระยะ สกิลจึงจะมีประสิทธิภาพสุงสุด ปกติแล้ว Knight เป็นพวกต่อสู้ระยะประชิด เวลาใช้มันเลยรู้สึกว่าน่ารำคาญ แต่ถ้าใช้สำหรับเปิดตอน pvp หรือสู้กับบอส ก็โอเคอยู่ เพราะที่เลเวล 10 จะทำดาเมจประมาณ 5 พันใน hit เดียว แต่ถ้าใครจะเล่นสายผสม ไม่แนะนำให้อัพเต็ม

10. ทำไมไม่อัพสกิล Berserk ให้เต็ม เพราะตอนสกิลเลเวลสูง มันทำดาเมจได้เยอะ?
ตอบ ปัญหาใหญ่ของสกิล Berserk คือ มันร่ายนานมาก ถ้าจะลากมอนเป็นฝูงแล้วฆ่า เราคงไม่มีเวลาแม้แต่วินาทีเดียวให้มอน 50 ตัวยืนอัดเราหรอก อีกอย่างหนึ่ง พวก ยาbuff ต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มดาเมจ จะไม่มีผลกับสกิล Berserk ความแรงของสกิล Berserk ขึ้นอยู่กับ เลเวลสกิลของมันเองเท่านั้น และเอฟเฟคสตัน 3 วินาทีของสกิลก็ไม่ได้ติดทุกครั้งไป

11. สกิล Jumping Crash อัพดีมั้ย?
ตอบ หลายๆคนบอกว่าไม่ดี แต่คนเขียนไกด์นี้เค้าบอกว่าดี เพราะมันประหยัด mp ดีเลย์ก็แค่ 8 วิ แถมทำดาเมจได้ตั้ง 2000 ความกว้างของสกิลก็อยู่ในระดับปานกลาง ยิงได้รอบๆตัว

12. สกิล Strengthen Health ต้องอัพมั้ย?
ตอบ ช่วงแรกๆจำเป็นต้องอัพอย่างยิ่ง เพราะมันจะช่วยให้เก็บเลเวลคนเดียวง่ายหน่อย ไม่เปลืองยามาก
Read more...